สว่านกระแทกไฟฟ้า 650 วัตต์ รุ่น EDL-CZ13-E1 DELI
สว่านกระแทก ถือเป็นไอเท็มที่หลายคนมองข้ามไม่ได้ โดยเฉพาะสาย DIY, ช่างประจำบ้าน หรือแม้แต่คนที่ชอบตกแต่งซ่อมแซมเฟอร์นิเจอร์เอง สว่านกระแทกต่างจากสว่านธรรมดาตรงที่มันสามารถส่งแรงกระแทกในแนวลึกขณะหมุน ซึ่งเหมาะกับการเจาะวัสดุแข็ง เช่น คอนกรีต หรือผนังปูนได้ดีกว่าสว่านธรรมดา
รุ่นที่เราจะพูดถึงในบทความนี้คือ DELI EDL-CZ13-E1 ซึ่งมีกำลังไฟอยู่ที่ 650 วัตต์ เป็นรุ่นที่อยู่ในระดับ มือสมัครเล่นกึ่งมืออาชีพ ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานหลากหลาย ทั้งเจาะไม้ เหล็ก ปูน โดยยังคงคอนเซ็ปต์ของความคุ้มค่าราคาไม่แรง แต่ก็ยังไม่เหมาะสำหรับงานหนัก
สว่านรุ่นนี้เหมาะกับใคร
- ผู้ที่ต้องการสว่านตัวแรกติดบ้าน
- เจ้าของบ้านที่ซ่อมแซมเองบ่อย ๆ
- ผู้รับเหมาเบื้องต้น หรืองานรีโนเวทขนาดเล็ก
- ช่างสายงาน DIY สร้างเฟอร์นิเจอร์หรือของแต่งบ้าน
ดีไซน์และความรู้สึกแรกเมื่อจับตัวเครื่อง
ตัวเครื่องออกแบบมาค่อนข้างกะทัดรัด มีน้ำหนักประมาณ 2 กิโลกรัม ไม่หนักเกินไปสำหรับการใช้งานมือเดียว ด้ามจับหุ้มยางกันลื่น จับแล้วรู้สึกแน่น มั่นใจ คันเร่งอยู่ในตำแหน่งนิ้วชี้พอดี ทำให้ควบคุมแรงบิดได้สะดวก
ระบบล็อกการหมุนอัตโนมัติ ที่อยู่ข้างคันเร่งช่วยให้ใช้งานต่อเนื่องได้โดยไม่ต้องกดแช่นาน ส่วนหัวจับดอกเป็นแบบ หัวเหล็ก 13 มม. ซึ่งเหมาะสำหรับงานเจาะหลากหลายวัสดุ
จุดเด่น
- กำลังไฟ 650 วัตต์ที่พอเพียง
- เหมาะกับงานทั่วไปถึงงานกึ่งหนัก เช่น เจาะผนังปูน, เจาะเหล็กเบา หรือเฟอร์นิเจอร์ไม้หนา
- ขนาดกระทัดรัด น้ำหนักเบา
- ใช้งานนาน ๆ ได้โดยไม่เมื่อยมือ เหมาะกับทั้งผู้ชายและผู้หญิง
- โหมดเจาะธรรมดา & กระแทกแยกจากกัน
- ใช้งานได้ทั้งแบบละเอียด (เช่น เจาะเฟอร์นิเจอร์) หรือเจาะวัสดุแข็งอย่างปูน
- รองรับดอกขนาดใหญ่กว่าสว่านทั่วไป ทำให้ยืดหยุ่นในการเลือกใช้งาน
- ราคาจับต้องได้
จุดด้อย
- ไม่มีระบบลดแรงสั่น (Anti-Vibration)
- ใช้งานกับคอนกรีตนาน ๆ มือจะรู้สึกสั่นและล้า ต้องพักเป็นช่วง ๆ
- มอเตอร์ร้อนเร็วเมื่อใช้งานหนัก
- เสียงดังพอสมควรเมื่อใช้โหมดกระแทก
การดูแลรักษาให้เครื่องอยู่กับเรานานๆ
แม้ว่าสว่านกระแทก DELI EDL-CZ13-E1 จะเป็นเครื่องมือราคาประหยัด แต่หากดูแลอย่างถูกวิธีก็ช่วยให้มันทำงานได้ดีและอยู่กับเราได้นานขึ้นอีกหลายปีเลยทีเดียวครับ มาดูเทคนิคง่าย ๆ กันเลย
1. พักเครื่องหลังใช้งานต่อเนื่อง
สว่านกระแทก รุ่นนี้ไม่ได้ออกแบบมาสำหรับงานหนักต่อเนื่อง 12 ชั่วโมง ดังนั้นหากคุณเจาะงานติดต่อกัน 10-15 รู โดยเฉพาะในโลหะหรือคอนกรีต ควรพักให้เครื่องเย็น 5-10 นาที
2. หมั่นเป่าฝุ่นหลังใช้งาน
งานเจาะปูนหรือไม้จะมีฝุ่นจำนวนมากติดเข้าไปในช่องระบายอากาศของตัวเครื่อง ใช้ลมเป่าฝุ่นออก (หากมีเครื่องเป่าลมเล็ก ๆ ยิ่งดี) หรือใช้แปรงขนอ่อนปัดให้สะอาด
3. ใช้ดอกสว่านที่เหมาะกับงาน
อย่าใช้ดอกเจาะไม้ไปเจาะเหล็ก หรือเอาดอกปูนไปเจาะพลาสติก เพราะนอกจากจะเจาะไม่เข้าแล้ว ยังทำให้มอเตอร์ทำงานหนักและสึกหรอเร็วขึ้นด้วย
4. เช็ดด้วยน้ำมัน/จารบี
แม้รุ่นนี้จะไม่ใช่เครื่องอุตสาหกรรมที่ต้องเติมน้ำมันบ่อย แต่การหยอดน้ำมันบางส่วน เช่น บริเวณหัวจับดอกเป็นครั้งคราว จะช่วยให้การหมุนลื่นขึ้น และป้องกันสนิมได้ดี
5. เก็บในที่แห้ง
หลังใช้งาน ควรเก็บเครื่องในที่แห้งและไม่โดนแสงแดดโดยตรง และอย่าวางทิ้งไว้ในที่ที่มีความชื้น เพราะจะทำให้โลหะในเครื่องขึ้นสนิมได้เร็ว